วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

20 หนทาง สู่ความสุขได้ทุกวัน



ความสุข เป็นคำที่ใคร ๆ ต่างก็ไขว่คว้า อยากมีไว้ในครอบครอง และความสุขของแต่ละคนก็มาจากสาเหตุต่าง ๆ กันไป บ้างแค่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่งก็มีความสุข บางคนแค่ได้พักสมองจากการทำงานบ้างก็รู้สึกเป็นสุขแล้ว เมื่อจิตใจรู้สึกสบาย ร่างกายก็รู้สึกผ่อนคลายตามไปด้วย เป็นกลไกการทำงานของกายกับใจที่เกี่ยวเนื่องถึงกัน  เมื่อสุขกายสบายใจขนาดนี้คนเราก็เลยอยากจะมีความสุขอยู่บ่อย ๆ ซึ่งวิธีที่ทำให้เรามีความสุขได้นั้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร ลองมาดู 20 วิธีง่าย ๆ ที่จะสร้างความสุขให้กับตัวเองกันดีกว่าค่ะ


 1. ระเบิดหัวเราะดัง ๆ

           การหัวเราะเป็นสัญลักษณ์ของการมีความสุข ช่วยลดความเครียดและเพิ่มระดับฮอร์โมนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ได้ให้ผู้เข้าร่วมทดลองชาย 8 คน จาก 16 คน ดูวีดิโอที่ผู้คนได้ลงความเห็นว่ามีเนื้อหาที่สนุกสนาน ผลปรากฏว่าขณะได้ชมวีดิโอ ชายกลุ่มนี้มีระดับฮอร์โมนความเครียดลดต่ำลง ในขณะที่สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ถูกหลั่งออกมาเมื่อรู้สึกสนุกสนานหรือตื่นตัว ออกมามากขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังมีปริมาณโกรทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ชี้บ่งถึงสุขภาพและภูมิต้านทาน สูงขึ้นถึง 87 เปอร์เซ็นต์  เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดูวีดิโอสนุกสนานเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า การหัวเราะและความรู้สึกสนุกสนานทำให้เรามีความสุขขึ้นได้

2. นอนหลับอย่างเพียงพอ

           หลาย ๆ คนมีนิสัยชอบนอนดึก ทำให้รู้สึกไม่แจ่มใสและอารมณ์หม่นหมองได้ง่ายในวันต่อมา การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นการชาร์ตแบตให้กับร่างกาย ลองเข้านอนแต่หัวค่ำ และนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง หากยังไม่รู้สึกง่วงในทันที ลองหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านสักเล่ม พอเริ่มง่วงจึงหรี่ไฟและพักผ่อน แล้วคุณจะตื่นขึ้นมาอย่างสดใสในเช้าวันถัดไปแน่นอน

3. ฟังเพลง
      มีผลการศึกษาพบว่า เสียงดนตรีช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และยังกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกมีความสุขหรือพึงพอใจ ซึ่งสามารถถูกกระตุ้นด้วยอาหารและการมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นเดียวกัน จากการทดลองเปิดเพลงคลอไปขณะทำการผ่าตัดตาให้กับผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง พบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับความดันเลือดลดลง ซึ่งสรุปได้ว่า เสียงเพลงช่วยผ่อนคลายและทำให้หัวใจไม่ต้องทำงานหนักนั่นเอง

4. ทำสวน

           การทำงานสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ นอกจากทำให้เราได้ออกกำลังกายและสดชื่นกับอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความตึงเครียด และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ทั้งความรู้สึกที่ได้เฝ้ามองต้นไม้ที่คุณทนุถนอมปลูกมากับมือ จนมันแตกยอดออกดอกออกผลได้นั้น จะทำให้คุณรู้สึกภูมิใจไปได้อีกนานเลยทีเดียว

 5. กลิ่นอโรมาเธอราพี

           ผลการวิจัยพบว่า กลิ่นอโรมาเธอราพีต่าง ๆ สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้จริง โดยกลิ่นโรสแมรี่ ช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว ผ่อนคลายความวิตกกังวล ช่วยให้การคิดคำนวณเร็วขึ้น ในขณะที่กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยกระตุ้นให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งปัจจุบันนี้เราสามารถปรุงแต่งให้ห้องอบอวลด้วยกลิ่นหอม ๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งจากน้ำมันหอม เทียนหอม สเปรย์ปรับอากาศ ฯลฯ





6. เล่นกับสัตว์เลี้ยง

           มีผลการวิจัยมากมายที่กล่าวว่า การใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงจะช่วยลดความเครียดได้ดี โดยมีการศึกษากับคู่รัก 240 คู่ โดยครึ่งหนึ่งเป็นคู่รักที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง พบว่ากลุ่มที่เลี้ยงสัตว์นั้น มีระดับการเต้นของหัวใจ และความดัน ต่ำกว่ากลุ่มคู่รักที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ยังพบอีกว่า ในบางครั้งสัตว์เลี้ยงยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดีกว่าคู่รักด้วยซ้ำ

 7. ลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำ

           การลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำ จะทำให้คุณลำดับความสำคัญและจัดการภารกิจต่าง ๆ ไปได้อย่างราบรื่น ช่วยให้คุณมองเห็นภาพคร่าว ๆ ของสิ่งที่กำลังจะเกิด และวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น

 8. จัดการความยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย

           การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใด หรือการรีแลกซ์ผ่อนคลาย คงเป็นไปได้ยาก หากโต๊ะที่ทำงานหรือที่บ้านของคุณรกระเกะระกะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่วางสุมเอาไว้ บิลค่าใช้จ่ายหรือเอกสารต่าง ๆ ที่กระจายเต็มโต๊ะ จัดการทำความสะอาดเสียให้เรียบร้อย ด้วยการจัดเก็บสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้คุณมีสมาธิในขณะที่ลงมือทำ ทั้งการเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน ยังทำให้มีสมาธิกับงานที่จะทำชิ้นต่อไปมากขึ้นด้วย

 9. รู้จักปล่อยวาง

           ถ้างานที่คุณทำอยู่มีมากจนล้นมือ ทำให้คุณหัวปั่นและหาเวลาว่างไม่ได้ และรู้สึกเหน็ดเหนื่อยนักก็ปล่อยวางลงเสีย พักงานบางอย่าง หรือกระจายความรับผิดชอบให้คนอื่น เหลือเวลาว่างให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้าง




 10. หยุดการรับข่าวสาร

           เมื่อถึงวันพักผ่อนของคุณ หยุดการรับข่าวสารไม่ว่าจากทางใดทั้งสิ้น ทั้งจากการดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ์ หรือเข้าไปดูข่าวต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ลองหยุดดูสักครั้ง เพื่อไม่ต้องรับรู้ความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัว ใช้วันหยุดของคุณในการพักผ่อนอยางเต็มที่ ทั้งกายและความคิด

 11. หยุดความเครียดจากการติดตามหุ้น

           หากใครเป็นนักลงทุน คงรู้ดีว่าการเล่นหุ้นนั้นมีความเสี่ยง และตลาดหุ้นก็ผันผวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนที่ลงทุนในตลาดหุ้นใจหายใจคว่ำกันได้ง่าย ๆ แต่การลงทุนใด ๆ นั้นย่อมต้องใช้ระยะเวลา โอกาสได้กำไรมามีมากพอ ๆ กับการขาดทุน หากไม่ต้องการเครียดหนักจากความผันผวนในตลาดหุ้น เลิกนิสัยที่ต้องเข้าไปเช็คความเป็นไปในตลาดหุ้นบ่อย ๆ ปล่อยให้การซื้อขายทำหน้าที่ของมันไป ส่วนคุณเอนหลังนั่งพัก โดยไม่ต้องเอาตัวเข้าไปผูกติดดีกว่า


 12. ไปสถานที่เงียบสงบ

           สถานที่เช่นโบสถ์ วัด พิพิธภัณฑ์ หรือห้องสมุด เป็นสถานที่ที่ดีในการหลบหนีความวุ่นวายจากโลกภายนอก เมื่อไหร่ที่รู้สึกวุ่นวายใจ หรือต้องการความเงียบสงบ ก็ลองไปสถานที่เหล่านี้ดูนะคะ
 
 13. ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง

           แม้การใช้เวลาอยู่กับเพื่อนรู้ใจจะช่วยบรรเทาความรู้สึกกังวล หรือความไม่สบายใจต่าง ๆ ได้ดี แต่บางคราวคุณก็ต้องการเวลาที่จะได้อยู่กับตัวเองบ้าง หากครั้งไหนที่รู้สึกวิตกกังวลและอยากเป็นอิสระ ลองออกไปทานข้าว ดูหนัง หรือใช้เวลาที่ร้านหนังสือคนเดียวดู คุณจะได้พบกับความสงบในอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิต


14. ทำงานอาสาสมัคร

           ยามที่คุณมีปัญหา จงคิดว่ามีคนอีกมากมายที่อยู่ในสภาพที่ลำบากและย่ำแย่กว่าคุณ ลองเป็นหนึ่งในผู้ที่ช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้น โดยการทำงานเป็นอาสาสมัคร ซึ่งนอกจากจะได้ทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นแล้ว ยังทำให้ตัวเองรู้สึกดีอีกด้วย  จากการศึกษาพบว่า การทำงานอาสาสมัครช่วยเพิ่มความรู้สึกมีความสุข ความพอใจในชีวิต ความมั่นใจในตนเอง ความรู้สึกว่าสามารถจัดการชีวิตตนเองได้ และลดความรู้สึกหดหู่หรือดูถูกตัวเองได้ด้วย

 15. จิตใจอันมีที่ยึดเหนี่ยว

           ความสุขหนึ่งสามารถเกิดได้จากใจซึ่งมีที่ยึดเหนี่ยว ในงานวิจัยหลายต่อหลายชิ้น ชี้ผลตรงกันว่า ผู้ที่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ จะรู้สึกมีความสุขกว่า รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้ดีกว่าผู้ที่มีชีวิตอยู่โดยไม่มีหลักยึดเหนี่ยวใด ๆ โดยศาสตราจารย์เดวิด ไมเออร์ส จากแผนกจิตวิทยา มหาวิทยาลัยโฮป รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ได้รายงานจากการวิจัยว่า ความศรัทธาที่ผู้คนมีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวพร้อมทั้งนำทางให้บุคคลผู้นั้นก้าวข้ามปัญหาต่าง ๆ ไปได้ โดยสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นศาสนา ขอเพียงแต่มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็พอ 

 16. มีสติอยู่กับตัว

           ในขณะหนึ่งที่คุณกำลังทำสิ่งใดอยู่ จงมีสติและจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น อย่างเวลากินอาหารเย็นกับครอบครัว ก็อย่าได้ให้สมองแว่บไปคิดถึงเรื่องงาน หรือกังวลถึงเรื่องที่ต้องสะสางในวันรุ่งขึ้น ส่วนเวลาทำงานก็ตั้งใจจดจ่อ อย่าได้เหม่อลอย เมื่อเรามีสมาธิและจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใด เรามักทำสิ่งนั้นได้ดี และผลที่ได้ก็จะทำให้เรามีความสุข

17. ไม่ทำหลาย ๆ สิ่งในเวลาเดียวกัน

           คนเราเมื่อทำหลาย ๆ สิ่งพร้อมกันแล้ว มักทำได้ไม่ค่อยดี อาจพลาดพลั้งทำอะไรผิดพลาดลงไปได้ง่าย ๆ ด้วยไม่รู้ว่าจะให้จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งไหนดี เช่น หากคุณมักโทรศัพท์ไปรีดผ้าไป วางมือจากงานบ้านนั้นเสียก่อน แล้วนั่งลงคุยโทรศัพท์ดี ๆ ให้ความสนใจกับบทสนทนานั้นว่าคู่สนทนากำลังกล่าวถึงสิ่งใด ส่วนคนทำงานที่มักเขียนรายงานไปพร้อม ๆ กับเช็คอีเมล หรือท่องไปตามหน้าเว็บเพจต่าง ๆ หยุดมือจากการคลิกเมาส์ท่องโลกอินเทอร์เน็ตสักพัก แล้วหันมาจดจ่อทำงานของคุณให้เสร็จก่อน นอกจากงานจะเสร็จไวขึ้นแล้ว ยังถูกต้องแม่นยำมากขึ้นด้วย

 18. เดินจงกรม

           การได้สงบจิตใจและสงบสติของตัวเองด้วยการเพ่งสมาธิไปที่แต่ละก้าวย่างเช่นการเดินจงกรม ย่อมดีกว่าการกินยาระงับประสาท ที่แม้จะให้ผลเหมือนกัน แต่ส่งผลต่อจิตใจแตกต่างกันอย่างลิบลับ ยาระงับประสาทช่วยหยุดอาการฟุ้งซ่าน แต่การเดินจงกรมนอกจากจะทำให้จิตใจสงบลงไม่ฟุ้งซ่านแล้ว ยังทำให้จิตใจแข็งแรง และมีวิจารณญาณ มีสติกำกับการกระทำมากขึ้นด้วย


 19. อธิษฐาน

           การอธิษฐานขอพรก็ช่วยให้เรามีความสุขขึ้นได้ แม้จะไม่มีสิ่งใดเป็นหลักรับประกันได้ว่า สิ่งที่เราได้วอนขอไปนั้นจะสัมฤทธิ์ผลจริงหรือไม่ แต่การรู้สึกว่ามีใครบางคนหรือเบื้องบนที่เราไม่อาจรู้ รับฟังคำอธิษฐานของเราอยู่ ก็จะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจมากขึ้นได้

 20. ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ

           จากการสำรวจผู้คน 1,300 คน ทั้งชายและหญิงในช่วงอายุต่าง ๆ กัน มีข้อชี้บ่งว่า ผู้ที่มีมิตรสหายมาก จะระดับมีความดันเลือด ระดับน้ำตาล ระดับคอเรสเตอรอล และระดับฮอร์โมนคอติซอล หรือฮอร์โมนความเครียด ต่ำกว่าผู้ที่มีเพื่อนน้อยเพียง 1-2 คน และยังพบข้อชี้บ่งเช่นเดียวกันนี้ ในผู้ที่มีความสัมพันธ์สนิทสนมใกล้ชิดกับญาติ คนในครอบครัว และคนรัก นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ผู้คนที่รู้สึกโดดเดี่ยว หดหู่ มีโอกาสที่จะป่วย และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร มากกว่ากลุ่มที่มีมิตรสหายรายล้อม 3-5 เท่าเลยทีเดียว รู้อย่างนี้แล้วแทบอยากจะโทรชวนเพื่อนออกมาเจอกันทันทีเลยเชียว


           เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 20 หนทางที่จะนำคุณไปสู่ความสุขได้ทุกเมื่อ สุขบางอย่างเกิดจากการกระทำ เลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิดความไม่สบายใจ และเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดกับความสุข ส่วนสุขบางอย่างเกิดมาจากจิตใจข้างใน เพียงแค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็มีความสุขขึ้นมาก จะเลือกข้อไหนไปปฏิติก็ได้นะคะ รับรองว่าทำแล้วชีวิตแฮปปี้ขึ้นแน่นอน ยังไงก็ขอให้มีความสุขกันทุกคนนะคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น