วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

สุขภาพดี...มีชัยไปกว่าครึ่ง

                                   สุขภาพน่ารู้



1. การกินคะน้าตาไม่เป็นต้อ คะน้าเป็นผักหาง่ายในท้องตลาด เป็นผักที่อุดมไปด้วย วิตามินซี วิตามินอี แคโรทีนอยด์ และโฟเลต นอกจากนี้ยังมีสาร ลูทีน” ซึ่งเป็นสารสำคัญที่พบในเลนส์ตา จากงานวิจัยพบว่า การกินอาหารหรือพืชผักที่มีสารลูทีนสูง เช่น คะน้า จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกลงได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่กิน นอกจากนี้การกินคะน้าเป็นประจำ ยังช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ปอด และเต้านมอีกด้วย

2. การกินเห็ดป้องกันกระดูกพรุน คนส่วนใหญ่ทราบดีว่าการขาดวิตามินดีและแคลเซียม จะทำให้กระดูกไม่แข็งแรง ยิ่งอยู่ในวัยสูงอายุก็อาจเพิ่มอัตราความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ ล่าสุดนักวิจัยพบว่า การกินอาหารที่มีธาตุทองแดงเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ และการขาดธาตุทองแดงแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้อาการกระดูกพรุนแย่ลงไปอีก ดังนั้นการกินอาหารที่มีธาตุทองแดงมาก เช่น เห็ด ปู กุ้งมังกร หอยนางรม ลูกพรุน ปลาซาร์ดีน จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น

3. การกินแอปเปิ้ลให้ปอดแข็งแรง ไม่ว่าจะกินแอปเปิลเขียวหรือแดงก็ดีต่อปอดเป็นที่สุด เพราะแอปเปิลมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ เคอร์ซีทิน” สารตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดอย่างได้ผล นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย วิธีการกินแอปเปิลให้ได้สารเคอร์ซีทีนมากที่สุดก็คือ ต้องกินผลสดทั้งเปลือก ซึ่งจะให้ได้รับสาร เพกทิน” จากเปลือกแอปเปิลเพิ่มขึ้นด้วย สารเพกทินมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ส่วนคุณสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนักการกินแอปเปิลจะช่วยให้อิ่มนาน ไม่รู้สึกหิว เพราะในแอปเปิลมีคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันทีถึง 75 เปอร์เซ็นต์ การกินแอปเปิลสด ได้ประโยชน์มากมาย

4. การกินองุ่นทั้งเมล็ดช่วยชะลอความแก่ ใครที่อยากเป็นหนุ่มเป็นสาวสองพันปี เรามีวิธีการชะลอความชราด้วยการกินผลไม้ที่หาง่าย ๆ เช่น องุ่น และต้องเคี้ยวเมล็ดองุ่นด้วย เพราะในเมล็ดองุ่นมีสาร โอพีซี” (oligomeric proanthocyanidin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า องุ่นจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยรักษาสุขภาพจากภายใน ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยชะลอความชรา และเป็นสารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับจอประสาทตาอีกด้วย


เช็ค ดวงตา” ถูกใช้งานอย่างหักโหมหรือไม่?!! พร้อมวิธีแก้ไขควรปฏิบัติ ช่วยถนอม สายตา” ยามนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์

นักศึกษายุคไอทีที่ต้องหาข้อมูล ทำการบ้าน หรือพิมพ์รายงานผ่านคอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมง หากรู้สึกตาแห้ง แสบ พร่ามัว ปวดกระบอกตา หรือเห็นแสง-สีผิดจากปกติ นั่นเป็นสัญญาณของการจ้องจอคอมฯ นานเกินไป แม้ไม่อันตราย แต่บั่นทอนประสิทธิภาพการเรียนรู้ ดังนั้น เพื่อดวงตาคู่สวยทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพไปนาน ๆ จึงต้องหมั่นถนอมด้วยวิธีต่อไปนี้
1.จอคอมพิวเตอร์ควรห่างจากสายตาประมาณ 1 ช่วงแขน และปรับจุดกึ่งกลางจอคอมฯ ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 20 องศา เป็นระยะที่ช่วยลดอาการเมื่อยเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ หลัง และคอได้
2.ปรับแสง และความคมชัดหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้รู้สึกสบายตา โดยไม่ต้องเพ่ง ควรพิจารณาแสงไฟในห้องด้วยว่า เมื่อส่องกระทบหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว จ้าเกินไปหรือไม่ เพราะจะทำให้ดวงตาเมื่อยล้า แห้ง และแสบได้ง่าย นอกจากนี้ ควรติดแผ่นกรองรังสี เพื่อลดการกระจายแสง
3.พักสายตาทุก 30 นาที โดยหลับตา หรือมองไปไกล ๆ ประมาณ 5 นาที อาจใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ประคบดวงตา ประมาณ 2-3 นาที จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา และทำให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาได้ดี
4.ควรกระพริบตาให้บ่อยขึ้น เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา ช่วยลดอาการแสบตา ตาแห้ง และความอ่อนล้าของดวงตาได้ ทั้งนี้ ผลการวิจัยในต่างประเทศพบว่า การนั่งจ้องคอมฯ เป็นเวลานาน อัตราการกระพริบตาจะลดลงโดยไม่รู้ตัว ถึงร้อยละ 60
5.สำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ มักตาแห้งได้ง่าย กรณีนี้การหยอดน้ำตาเทียมจะช่วยบรรเทาอาการปวด และแสบตาได้ แต่ควรใช้เมื่อมีอาการ
6.ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ เพราะฝุ่นที่หนาจะทำให้แสงสะท้อนเข้าตาได้มากขึ้น
แม้การใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยจ้องจอคอมพิวเตอร์ ไม่ควรเกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน จะเป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้ยากสำหรับหนุ่ม-สาวยุคไอที แต่สามารถถนอมดวงตาได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีข้างต้น เพียงหมั่นปฏิบัติให้เป็นนิสัย เพื่อสายตาได้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพนานที่สุด.


ขณะที่เรามีอายุมากขึ้น ร่างกายของเรา -ไม่ว่าหญิงหรือชาย ก็มีอายุมากขึ้นตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับผู้ชาย ร่างกายที่แสดงออกถึงความมีอายุคือพุงที่ห้อยย้อย รอยพับย่นที่หน้าผาก แน่นอนรวมทั้ง ศีรษะล้าน อย่างไรก็ตาม ผู้ชายมักชอบคิดว่า หากเส้นผมบนศีรษะพวกเขายังคงดกหนา นั่นหมายความว่าพวกเขายังคงอยู่ในช่วงชีวิตที่หนุ่มแน่น แต่ความจริงก็คือ ความคิดเช่นนั้นไม่แน่เสมอไปอีกแล้ว


8 วิธีฉุกรั้งเส้นผมให้อยู่บนศีรษะ
เว็บไซต์อาสค์เมนดอทคอมระบุว่า ปัจจุบัน สองในสามของผู้ชายอายุ 35 ปี เริ่มเผชิญหน้ากับปัญหาสภาพเส้นผมร่วงผมบางมากกว่าปกติ ขณะที่เกือบ 85% ของผู้ชายอายุ 50 ปีต้องเดินไปไหนมาไหนด้วยศีรษะที่มีจำนวนเส้นผมเพียงน้อยนิด แต่ในข่าวร้ายก็มีข่าวดี ยังมีวิธีชะลอให้เส้นผมยังรวมตัวอยู่บนศีรษะของพวกเราได้นานขึ้น
สาเหตุของผมร่วง
แม้อาการ ผมร่วง จะทำให้หลายคนแอบค้อนบิดามารดา อันเนื่องมาจากพันธุกรรม แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นอีก ซึ่งป้องกันได้ เช่น การพร่องสารอาหาร การติดเชื้อ ผลข้างเคียงจากการรับยารักษาโรค เคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้เกี่ยวกับเส้นผม แม้กระทั่งความเครียด หาวิธีแก้ไขและจัดการสาเหตุดังกล่าว ขณะเดียวกันก็บำรุงรักษาสภาพเส้นผมไปด้วย ก็จะช่วยสกัดสาเหตุผมร่วงได้ดีขึ้น
กินเนื้อปลาให้มากขึ้น
เนื้อปลาไม่เพียงแต่อุดมด้วยโปรตีนและแร่ธาตุ หากเป็นปลาทะเลน้ำลึก ยังเป็นแหล่งกรดไขมัน โอเมก้า-3 ชั้นเยี่ยม และวิตามินดี สารอาหารทั้งสองประเภทนี้มีส่วนช่วยป้องกันผมร่วงในบุคคลที่ต้องรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยเคมีบำบัด แม้ยังไม่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเส้นผมในผู้ชายสุขภาพดี แต่ทั้งโอเมก้า-3 และวิตามินดี ก็เป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์กับสุขภาพมากๆ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะสละเนื้อปลาออกจากมื้ออาหาร
รักษาระดับเหล็กในร่างกาย
การขาดแร่ธาตุประเภทเหล็ก มีผลให้ร่างกายเป็นโรคโลหิตจาง (ผู้หญิงมักประสบปัญหานี้ได้ง่าย) ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าคนที่ร่างกายขาดแร่ธาตุเหล็ก เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาผมร่วงโดยไม่คาดคิด แต่สภาวะหลุดร่วงของเส้นผมนั้นอาจจะเกิดขึ้นจนคุณแทบสังเกตไม่เห็น รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อผมบางไปเยอะแล้ว การเพิ่มแหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กในแต่ละมื้อ เช่น เมล็ดฟักทอง เต้าหู้ ควินวา (quinoa เมล็ดธัญพืชในแถบอเมริกาใต้ อุดมด้วยธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม ไลซีน) ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงอันเกิดจากร่างกายขาดแคลนธาตุเหล็ก นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้กินมังสวิรัติที่ต้องการป้องกันปัญหาผมร่วง เนื่องจากร่างกายของคนกินมังสวิรัติอาจได้รับแร่ธาตุเหล็กไม่เพียงพอ เพราะคุณไม่กินเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดงและไข่
อย่าลืม วิตามิน บี
สิ่งสำคัญในการเจริญเติบโตของเส้นผม คือ วิตามิน บี ไบโอติน (biotin สารอาหารที่อยู่ในตระกูลวิตามินบี อาหารขาดไบโอตินคือผิวหนังแห้งเป็นขุย ผมร่วง ผมเปราะบาง) โฟเลท วิตามินบีสอง และวิตามินบีสิบสอง ถ้าคุณคิดว่าร่างกายขาดวิตามินบี ให้ลองปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจไปซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทานเอง หรือเข้าทำการทดสอบการขาดวิตามินบี วิธีป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดแคลนกลุ่มวิตามินบี คือ กินอาหารจำพวกผักใบเขียว ไข่แดง ตับ ข้าวกล้อง ถั่วชนิดต่างๆ โยเกิร์ต เนื้อปลา
จัดการความเครียด
ในช่วงเวลาที่ 85% ของเส้นผมบนศีรษะอยู่ในช่วงเจริญเติบโต เส้นผมจำนวน 15% บนศีรษะได้ถึงคราวหมดอายุลงแล้ว เส้นผมที่หมดอายุแล้ว หรือเส้นผมที่ตายแล้ว ก็จะหลุดร่วงจากเราไป แต่เรื่องเหลือเชื่อที่เป็นไปแล้วคือ ความเครียด ทำให้ระบบการเจริญเติบโตของเส้นผมตกใจสุดขีด ผลที่ตามมาคือ เส้นผมราว 30-40% หยุดเติบโตและเริ่มต้นตาย ปรากฏการณ์นี้จะเห็นผลในอีกสามเดือนต่อมา มีสภาพใกล้เคียงกับเวลาที่สุนัขถึงระยะที่มันต้องผลัดขน ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงความคิดและความรู้สึกที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเครียด หรือเมื่อเกิดความเครียดแล้วควรหาวิธีบรรเทาและขจัดความเครียดให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว เพื่อป้องกันภาวะผมร่วงก่อนวาระ
อ่านฉลากยา
ผู้ชายส่วนใหญ่ทราบดีว่า เคมีบำบัด ชักนำให้เกิดภาวะผมร่วง แต่ผู้ชายอีกจำนวนมากก็ไม่ได้ระวังว่ายารักษาโรคบางตัวก็เป็นสาเหตุให้ผมร่วงได้เช่นกัน เช่น ยาลดการจับตัวของเม็ดเลือด (Blood thinners) ยารักษาโรคข้ออักเสบ ยาบางตัวที่ใช้เกี่ยวกับจิตเวช หากศีรษะที่มีเส้นผมดกหนาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ วิธีป้องกันศีรษะล้านง่ายที่สุดคืออ่านฉลากยาก่อนใช้ หรือสอบถามแพทย์เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง
รักษาความสะอาดส่วนตัว
แม้จะไม่ใช่สาเหตุของผมร่วงโดยตรง แต่การละเลยความสะอาดอนามัยส่วนตัว ก็นำพาเชื้อรามาสู่หนังศีรษะได้ และเชื้อราบางชนิดก็เป็นสาเหตุให้ผมร่วง แค่รักษาความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะด้วยการสระผมด้วยแชมพู (ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ) ก็ช่วยป้องกันการติดเชื้อของเชื้อราบนหนังศีรษะ (หนึ่งในกระบวนการทำให้ศีรษะล้าน) แต่อย่าสระผมมากหรือบ่อยจนเกินความพอดี เพราะสารสังเคราะห์ในแชมพูอาจทำร้ายต่อมไขมันโคนเส้นผม ซึ่งทำหน้าที่สร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติให้เส้นผมและหนังศีรษะ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แม้ยังไม่มีการศึกษาระบุแน่ชัดระหว่างการออกกำลังกายและการป้องกันปัญหาผมร่วงศีรษะล้าน แต่การออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยความเครียด ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และเหงื่อที่ร่างกายขับออกมาขณะออกกำลังก็ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างตามผิวหนังและหนังศีรษะ ช่วยให้รูขุมขนเส้นผมไม่อุดตันและได้หายใจสะดวกขึ้น
ร่วมสุขสโมสร
อย่างที่รู้กัน ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่เรื่องของ ศีรษะล้าน ไม่ว่ากรรมพันธุ์ของคุณ จะทำให้ผลสุดท้ายแล้ว คุณจะศีรษะล้านเมื่ออายุ 40 หรือไม่ก็ตาม อย่ายอมแพ้โดยไม่ต่อสู้
หากสู้แล้วพ่ายแพ้ ก็อย่าได้โศกเศร้าเสียใจ คุณไม่ได้โดดเดี่ยว สโมสรที่มีสมาชิกนับล้านๆ คนทั่วโลกที่ล่วงหน้าไปก่อนคุณ อ้าแขนต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกปี ใครจะรู้คุณอาจกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ก็ได้
ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า ล้าน” นี่แหละเซ็กซี่



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น