วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ตามรอยพ่อ...



.......ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่า ทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัวเอง
จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันก็เกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร
บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไหร่
ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก การจะเป็นเสือนั้นไม่สำคัญ สำคัญที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน
แบบพอมีพอกินนั้นหมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง..................
    พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540
ประมวลและกลั่นกรองจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
ซึ่งพระราชทานในวโรกาสต่าง ๆ รวมทั้งพระราชดำรัสอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยไดรับพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ให้นำไปเผยแพร่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2542   เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของทุกฝ่ายและประชาชนโดยทั่วไป

                  
ความพอเพียง

      หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดใด อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆมาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
เศรษฐกิจพอเพียง       การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ     
ประหยัดอดออม         ในการเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เราจะต้องคำนึงถึงความจำเป็น ความเหมาะสม คุณภาพของสินค้า รวมทั้งประโยชน์การใช้สอยเป็นเบื้องต้น ในการพิจารณาไม่ควรยึดติดกับยี่ห้อ ความทันสมัยของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตลอดจนสินค้าที่ฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นก็ไม่ควรซื้อหา          
ภูมิใจในอาชีพตนเอง                   การประกอบอาชีพที่ซื่อสัตย์สุจริต เป็นหนทางนำมาซึ่งความสุข ความสำเร็จในชีวิต และครอบครัว ดังนั้นแม้ว่าจะปรอบอาชีพอะไรก็ตาม ขอให้ทุกคนจงภูมิใจในอาชีพที่ทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เมื่อสำนึกในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดแล้ว ชุมชนและสังคมของเราก็จะมีความสุขติดตามมา  
สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง                   ทุกคนที่อาศัยในชุมชนแต่ละท้องถิ่นสามารถช่วยเหลือชุมชนของตนเองให้เข้มแข็งในรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสมได้ เช่าตลาดนัดชุมชน สหกรณ์ชุมชน หมู่บ้าน หรือตลาดน้ำ ซึ่งแต่ละคนจะนำผลผลิตของตนเองมาวางจำหน่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน โดยใช้พื้นฐานที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน ทำให้มีเงินหมุนเวียนในชุมชน และไม่ต้องผ่านมือพ่อค้าคนกลาง        
จัดการผืนดินให้เกิดประโยชน์                    ไม่ควรปล่อยให้ผืนแผ่นดินว่างเปล่า ควรศึกษาวิธีการปรับปรุงผืนดินให้อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชผลทางการเกษตร เช่น การปลูกพืชหมุนเวียน ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะทำให้ได้ผลผลิตทางการเกษตรฐบริโภคตลอดทั้งปี ถ้าเหลือจากการบริโภคแล้ว สามารถนำไปจำหน่ายเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว               
พออยู่พอกิน                ควรสร้างผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการในครอบครัวเท่านั้น หากมีเหลือจากการบริโภคแล้ว จึงค่อยนำไปจำหน่าย เป็นรายได้เสริมให้ครอบครัว ซึ่งไม่ถึงกับร่ำรวย แต่ก็ไม่จน ไม่เป็นหนี้สิน พออยู่พอกิน นับเป็นชีวิตที่มีความสุข      
รู้รักสามัคคี                   ชาวนาในชนบทห่างไกลหลายจังหวัด ยังใช้วิธีลงแขกเกี่ยวข้าว ซึ่งทำมาแต่ดั้งเดิม คือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกื้อกูลกัน มีความรักสมัครสมานสามัคคีต่อกัน ทำให้ไม่ต้องจ้างแรงงาน เสียทรัพย์สินเงินทอง พวกเขาเหล่านั้น จึงมีชีวิตที่มีความสุข  พออยู่พอกินด้วยกันทุกคน          
เทคโนโลยีท้องถิ่น       การที่เรารู้จักนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ โดยใช้ภูมิปัญญาและแนวคิดให้เหมาะสม ทำให้เกิดเทคโนโลยีท้องถิ่นช่วยให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับชีวิต และชุมชน ช่วยให้เกิดเครื่องมือในการทำงาน โดยไม่ต้องซื้อหาให้สิ้นเปลือง
                 





ผลผลิตชุมชน                การนำผลผลิตที่เหลือจากการบริโภคออกมาวางจำหน่าย นับเป็นการเสริมรายได้ให้กับครอบครัวทางหนึ่ง และยังเป็นการกระจายรายได้ หมุนเวียนในชนบทอีกด้วย นับเป็นวิธีการหนึ่งบนเส้นทางเศรษฐกิจแบบพอเพียง มีชีวิตแบบพอมีพอกินและยั่งยืน    
สร้างความสุขทางใจ                   ควรสร้างความสุขทางจิตใจให้เกิดขึ้นสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องอาศัยวัตถุ เทคโนโลยีต่าง ๆ ตามสมัยนิยม ควรมีความพอใจในสิ่งมี่ตนเองมีอยู่ ความสุขทางใจสร้างได้ด้วยการให้และการช่วยเหลือสังคม โดยที่ตนเองไม่เดือดร้อน
                 
ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์              เมื่อมีเวลาว่างจาการทำงานแล้ว ควรใช้เวลานั้นให้เกิดประโยชน์ เช่น ผลิตเครื่องมือไว้ใช้เองในครัวเรือน โดยไม่ต้องซื้อหา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว ถ้าทำได้จำนวนมาก ๆ แล้วสามารถนำไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง       
ครอบครัวอบอุ่น          ครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญทางสังคม แนวคิดทฤษฎีใหม่ จึงมุ่งเน้นให้เกษตรกรดำนินชีวิตที่พอเพียง พออยู่ พอกิน ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ช่วยเหลือเกื้อกูล แบ่งปันน้ำใจให้แก่กัน เพื่อชุมชนและสังคมที่ดี       

                 ตามรอยพ่อ


การทำดีนั้นยากและเห็นผลช้า

แต่ก็จำเป็นต้องทำ

เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่

และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว

แต่ละคนจึงต้องตั้งใจ

และเพียรพยายามให้สุดกำลัง

ในการสร้างเสริมและสะสมความดี 

(พระบรมราโชวาท)



                คำสอนของพ่อที่ทรงพระราชทานให้แก่พสกนิกรของพระองค์นั้น ทำให้เราได้ระลึกอยู่เสมอว่า  คนดีคือ คนที่คิดดี  พูดดี  และ โดยเฉพาะการทำดีเป็นการแสดงออกทางการประพฤติปฏิบัติอันเห็นได้อย่างชัดเจน ในภาวะปัจจุบัน  ที่มีแต่การแก่งแย่งกอบโกย  เห็นแก่ตัว  และละโมบหาความสุขเพียงลำพัง หากใครสักคนลุกขึ้นมาเป็นผู้ให้   ปลุกจิตสำนึกของการให้ซึ่งกันและกันแล้ว  ความสุขที่ขาดหายไปในแต่ละบุคคลก็จักได้ถูกเติมเต็มด้วยน้ำใจคนไทยด้วยกัน คณะนักศึกษาวิชาทหารและนักเรียนผู้ถือสัญชาติไทย  โรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่ ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.อ. คชาชาต บุญดี  ผู้บังคับศูนย์การฝึก นศท. มทบ.33  จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันทำความดีตามโครงการ ทำดีเพื่อพ่อ เพื่อสะท้อนถึงความจริงที่พ่อได้เพียรสอนให้มองเห็นคุณค่าของ การทำความดี ”  และ การให้ เมื่อสังคมมนุษย์มีการให้ซึ่งกันและกันแล้ว   ความสุขและสันติภาพก็จักบังเกิดขึ้นแก่สังคม


โครงการ ทำดีเพื่อพ่อ ”  เป็นเพียงแค่เม็ดดินเล็ก ๆ  ที่ปะปนเกลื่อนกล่นอยู่บนผืนดินนี้ หล่อเลี้ยงความยากแค้นขาดแคลนด้วยน้ำใจไม่กี่หยด แต่ก็สามารถช่วยบรรเทาความแห้งแล้งนั้นให้เบาบางลงได้   วันที่ 2 – 4 มกราคม 2550 คณะนักศึกษาวิชาทหารและนักเรียนผู้ถือสัญชาติไทย   โรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่ ได้เดินทางไปมอบผ้าห่มและเครื่องกันหนาวให้แก่พี่น้องไทยและทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย พม่า ณ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 จ.แม่ฮ่องสอน   รวมจำนวนทั้งสิ้น 29 คน เดินทางไปและกลับจากเชียงใหม่สู่แม่ฮ่องสอน  โดยสายการบินนกแอร์ และ  ได้รับการต้อนรับ ดูแลอย่างอบอุ่นจากทหาร ฉก. ร 7  ตลอด 3 วันอย่างน่าประทับใจยิ่ง นอกจากการร่วมทำกิจกรรมมอบผ้าห่มและเครื่องกันหนาวแล้ว  ทางคณะฯได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ๆ หลายแห่งของแม่ฮ่องสอน  สักการะพระธาตุดอยกองมู  ท่ามกลางความหนาวเหน็บของยามเช้า เยี่ยมหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว  ณ บ้านใหม่ในสอย  ศึกษาวิถีธรรมชาติที่ถ้ำปลา  และสัมผัสกลิ่นโคลนสปา ณ ภูโคลน ฯลฯ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้   ล้วนเป็นประสบการณ์อันยากจะลืมเลือน และไม่สามารถจะหาอ่านได้ในบทเรียนใด ๆ ในโลก


เมื่อเราเริ่มทำโครงการในระยะแรก   เราถือกล่องที่ช่วยกันทำขึ้นมาเองตามประสาเด็ก ๆ เดินขอรับบริจาคไปตามท้องถนน  ย่านการค้า  ตลาด  รวมถึงในค่ำคืนที่พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว  ณ ถนนคนเดิน   บางวันได้มาก   บางคืนได้น้อย   สุดแต่ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาค คุณค่าของการทำงานมิใช่อยู่ที่จำนวนเงินที่ได้มา แต่อยู่ที่จิตสำนึกและความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จอย่างดีที่สุด  อยากได้เงิน  อยากให้ทหารได้อบอุ่น อยากให้พี่น้องที่ด้อยโอกาสได้รับทราบถึงความห่วงใย  และที่สำคัญคือ  อยากทำสิ่งดี ๆ เพื่อให้พ่อหลวงได้ภูมิใจ   วันนี้.....ผ้าห่มและชุดกันหนาวจำนวน 600 ชิ้น ได้เดินทางถึงมือผู้รับเป็นที่เรียบร้อย  โดยความร่วมมือและความช่วยเหลือของทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 จ. แม่ฮ่องสอน   พรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปผ้าห่มและชุดกันหนาวอีก 400 ชิ้น อันเป็นเป้าหมายใหม่ของการรณรงค์ขอรับเงินบริจาคในครั้งต่อไป  ก็จะเดินทางสู่จุดหมายปลายทางเดียวกัน ขอบพระคุณผู้ปกครอง  นักเรียน  คณะอาจารย์  ศูนย์การฝึก นศท. มทบ. 33 จ.เชียงใหม่ และคนไทยทุกท่านที่ช่วยสละทุนทรัพย์เพื่อนำไปซื้อสิ่งของต่าง ๆ เพื่อมอบความอบอุ่นแก่พี่น้องไทยและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าอย่างเข้มแข็ง


ท้ายที่สุดนี้ ขออำนาจแห่งคุณงามความดีของพวกท่านทั้งหลาย ตลอดจนอำนาจแห่งความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ในฐานะพระองค์ท่านทรงเป็นจอมทัพไทยและเป็นดั่งพ่อของแผ่นดิน จงโปรดทรงดลบันดาลพระราชทานพรให้ทุกท่าน  จงประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป และขอสวัสดีปีใหม่ 2550แด่ทุกท่านมา ณ โอกาสนี้





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น